แหล่งต้นน้ำลำธาร  อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน  บ่อน้ำร้อนลือนาม  สามต้นสักใหญ่   ไหว้พระธาตุดอยซาง

 

 

                    อำเภอเมืองปาน เป็นชุมชนทางทิศเหนือของ ”เขลางค์นคร” เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์  พืชพันธ์ธัญญาหาร ที่ทุ่งนาเรียกกันว่า “ทุ่งสามโค้ง” ปัจจุบันโค้งที่หนึ่งตั้งอยู่บริเวณ  บ้านน้ำจำ หมู่ที่ 3  ตำบลเมืองปาน  โค้งที่สอง  อยู่บริเวณภูเขาเมืองดาว  บ้านแพะ  หมู่ที่ 1  ตำบลเมืองปาน   ความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวของทุ่งสามโค้งสามารถใช้เลี้ยงราษฎรได้เพียงพอ ด้วยเหตุนี้เมืองปานจึงเป็นที่เป้า   หมายของเมืองอื่น ๆ อาทิเช่น พม่า เงี้ยว ที่ต้องการยึดครอง  เพื่อเป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหาร

              อำเภอเมืองปานมีนายบ้านคนหนึ่งไม่ปรากฏชื่อเป็นผู้มีความกล้าหาญ เข้มแข็ง      อดทนเด็ด   เดี่ยวและเสียสละ ได้รวบรวมสมัครพรรมพวกต่อต้านพวกข้าศึกที่บุกรุกเข้ามา  ได้รับชัยชนะหลาย   ครั้งจนข้าศึกศัตรูไม่กล้ามารบกวนอีกต่อไป นายบ้านผู้นี้ได้สร้างเครื่องส่งสัญญาณในการแจ้งเหตุ   แก่ หมู่บ้านและเป็นสัญญานัดหมายเพื่อร่วมมือกันต่อสู้ข้าศึกศัตรู โดยใช้ทองคำมาหลอมเป็น “ปาน” (ลักษณะคล้ายคล้องใหญ่แต่โหนกที่ตีเล็กกว่า)ชานบ้านเรียกว่า “ปานคำ” นายหมู่บ้านนี้เป็นผู้ทำ “ปาน” เป็นสัญญาลักษณ์แจ้งเหตุต่างๆแก่ชาวบ้านจนได้รับการขนานนามจากชาวเมืองปานว่า“เมืองจเรปาน” ต่อมาเรียกเพี้ยนไปเหลือเพียง “เมืองปาน”

              อำเภอเมืองปานแต่ดั้งเดิมรวมอยู่ในท้องที่แจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ต่อมาทางกระทรวง มหาดไทยได้พิจารณาเห็นว่าท้องที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง มีอาณาเขตกว้างขวางมีพลเมืองมาก ท้องที่บางตำบลอยู่ห่างไกลจากอำเภอ เจ้าหน้าที่ออกตรวจตาดูแลทุกข์ของราษฎรไม่ทั่ว  ถึง เพื่อประโยชน์ในด้าน   ปกครองและอำอวยความสะดวกแก่ประชาชนในท้องที่จึงได้ประกาศแบ่งพื้นที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง คือ “กิ่งอำเภอเมืองปาน” ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2524 และยกฐานะเป็น "อำเภอเมืองปาน" ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2535